ชั้นดินและชั้นหิน หมายถึงส่วนประกอบทางธรณีวิทยาที่อยู่ใต้ผิวดิน ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่บ่งบอกถึงลักษณะทางกายภาพและเคมีของพื้นที่นั้นๆ แต่ละชั้นมีคุณสมบัติและบทบาทที่แตกต่างกันในการกักเก็บน้ำและเป็นแหล่งทรัพยากรอื่นๆ
1. ชั้นดิน (Soil Layers)
ชั้นดินเป็นชั้นบนสุดของพื้นผิวโลก ซึ่งประกอบด้วยดินและซากพืชที่เน่าเปื่อย ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ที่พืชเติบโตได้ดี และมีส่วนในการกักเก็บน้ำและสารอาหารให้กับพืช โดยชั้นดินมักแบ่งเป็นชั้นต่างๆ ตามลำดับการสะสมตัวและคุณสมบัติของดิน ดังนี้:
-
ชั้น O (Organic Layer): เป็นชั้นบนสุดที่มีสารอินทรีย์สูง เช่น ซากพืช ซากสัตว์ ที่ย่อยสลาย ซึ่งช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน
-
ชั้น A (Topsoil): เป็นชั้นดินที่ผสมกันระหว่างดินแร่และสารอินทรีย์ มีความอุดมสมบูรณ์สูง เหมาะสมต่อการเพาะปลูก
-
ชั้น B (Subsoil): ชั้นนี้ประกอบด้วยดินแร่และแร่ธาตุที่ถูกพัดพาจากชั้นบน เป็นชั้นที่มีความแข็งแรงและมีแร่ธาตุสะสมอยู่มาก
-
ชั้น C (Parent Material): ชั้นนี้อยู่ลึกลงไปกว่าชั้นดิน เป็นชั้นที่ประกอบด้วยหินที่เริ่มแตกสลายและยังไม่ได้ย่อยสลายเป็นดินละเอียด
-
ชั้น R (Bedrock): เป็นชั้นหินฐานรากที่ยังไม่ได้ย่อยสลายหรือพังทลาย กลายเป็นแหล่งสำคัญของหินที่เกิดจากกระบวนการธรณีวิทยา
2. ชั้นหิน (Rock Layers)
ชั้นหินเป็นส่วนประกอบหลักของพื้นดินที่อยู่ลึกลงไปจากชั้นดิน มีความแข็งแรงและความหนาแน่นสูง ชั้นหินมีหลายประเภทตามลักษณะการเกิดและโครงสร้าง ดังนี้:
-
หินตะกอน (Sedimentary Rock): เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนที่มาจากการพังทลายของหิน เช่น หินปูน หินดินดาน หินทราย เป็นชั้นหินที่มักพบแหล่งน้ำบาดาล เนื่องจากมีช่องว่างระหว่างเม็ดตะกอนที่กักเก็บน้ำได้
-
หินอัคนี (Igneous Rock): เกิดจากการเย็นตัวและแข็งตัวของหินหลอมเหลวใต้พื้นโลก เช่น หินบะซอลต์ หินแกรนิต หินนี้มีความหนาแน่นสูง จึงมักไม่เป็นแหล่งเก็บน้ำบาดาล
-
หินแปร (Metamorphic Rock): เกิดจากการแปรสภาพของหินเดิมผ่านความร้อนและแรงดันสูง เช่น หินชนวน หินควอร์ตไซต์ หินอ่อน หินแปรมีความแข็งแรงสูง แต่มักไม่กักเก็บน้ำ
ความสำคัญของชั้นดินและชั้นหินในการหาน้ำบาดาล
ชั้นดินและชั้นหินเป็นปัจจัยสำคัญในการกักเก็บและเคลื่อนย้ายน้ำใต้ดิน ชั้นดินที่มีช่องว่างหรือชั้นหินตะกอนมักเป็นแหล่งกักเก็บน้ำบาดาลที่ดี ในขณะที่ชั้นหินที่แข็งแรงและไม่มีช่องว่าง เช่น หินอัคนีหรือหินแปร จะไม่สามารถกักเก็บน้ำได้มากนัก